ระเบิดที่ดังขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่พลเรือน ทำให้เด็กๆ ต้องทิ้งบ้านและโรงเรียนเพื่อหนีภัยสงคราม เด็กที่เคยเล่นสนุกกับครอบครัว ต้องมานอนรวมกับคนแปลกหน้าในโรงเรียนที่กลายเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกำลังเร่งดูแลผู้ลี้ภัยนับพัน ทั้งกายและใจ แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนถามคือ “เมื่อไหร่กัมพูชาจะหยุดยิง เราจะได้กลับบ้าน
ความโหดร้ายไร้ขีดจำกัด ระเบิดจากกัมพูชาทำลายชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์
เสียงระเบิดกัมปนาทไม่ได้จำกัดอยู่แค่แนวรบอีกต่อไป แต่ได้พุ่งเป้าไปที่ชีวิตอันเปราะบางของ พลเรือน ผู้ไม่รู้เรื่องราว เด็กๆ ที่เคยวิ่งเล่นหัวเราะอย่างมีความสุขในโรงเรียนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย ส่วนบ้านที่เคยอบอุ่นก็กลายเป็นเพียงความทรงจำที่เลือนราง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ สถานศึกษา ซึ่งเคยเป็นที่บ่มเพาะความรู้และความฝัน กลับต้องกลายมาเป็นที่พักพิงฉุกเฉินภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง รองรับผู้หนีภัยสงครามนับพันชีวิต เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากทุกภาคส่วนต่างระดมกำลังเข้าช่วยเหลือทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้หญิงตั้งครรภ์ที่กำลังเผชิญกับบาดแผลทางใจอย่างแสนสาหัส



ทุกคนที่ต้องทิ้งบ้านมาอย่างกะทันหันต่างมีคำถามเดียวกันอยู่ในใจ “เมื่อไหร่การโจมตีจะยุติลง… เราจะได้กลับบ้านกันเมื่อไหร่” คำถามนี้สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาอันเรียบง่ายที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขดังเดิม แต่สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญคือความหวาดกลัวและอนาคตที่ไม่แน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่พลเรือนอย่างชัดเจน




เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งทางทหาร แต่คือการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมและเป็นการละเมิดกฎหมายสงครามอย่างร้ายแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์
#TruthFromThailand #รวมใจไทยเป็นหนึ่ง #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #กัมพูชาอาชญากรสงคราม #CambodiaWarCriminal