วัดหลิงกวง ตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของกรุงปักกิ่ง เป็นเสมือนโอเอซิสแห่งความสงบกลางเมืองใหญ่ ที่นี่คือที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและความตรัสรู้ องค์พระเขี้ยวแก้วประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำอร่ามตา ส่องประกายเจิดจรัสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ผู้ที่ได้มาสักการะต่างรู้สึกถึงความสงบเยือกเย็นและความศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
พระเขี้ยวแก้วเสด็จสู่สยาม วัดหลิงกวง ศูนย์กลางแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
วัดหลิงกวง ตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่สำคัญที่สุดของจีน และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วโลกให้มาสักการะ

ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
วัดหลิงกวงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1330 ในสมัยราชวงศ์หยวน และได้รับการบูรณะและขยายหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน วัดแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะศูนย์กลางทางพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติธรรมและศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ในปี ค.ศ. 1983 วัดหลิงกวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดพุทธสำคัญในพื้นที่วัฒนธรรมจีนฮั่น โดยคณะรัฐมนตรีจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของวัดแห่งนี้

พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) สัญลักษณ์แห่งปัญญา
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณีของวัดหลิงกวง เป็นหนึ่งในวัตถุบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพุทธศาสนา เชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระทันตธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและความตรัสรู้
แม้ว่าพระบรมสารีริกธาตุจะไม่ใช่แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา แต่ก็เป็นเครื่องหมายที่ช่วยให้พุทธศาสนิกชนระลึกถึงพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ได้ดียิ่งขึ้น การได้มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุจึงเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่สำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วโลก

ความเชื่อและความหมาย
พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าการได้มาสักการะพระบรมสารีริกธาตุจะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าการได้เห็นพระบรมสารีริกธาตุจะช่วยให้จิตใจสงบและเกิดปัญญา
สำหรับชาวจีน วัดหลิงกวงยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพทางวัฒนธรรมและศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว
การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐาน ณ ประเทศไทย
ในปี 2567 ได้มีการจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง ไปประดิษฐาน ณ ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีน การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ได้รับความสนใจจากทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก
วัดหลิงกวงเป็นมากกว่าวัดธรรมดาๆ แห่งหนึ่ง แต่เป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาที่มีความสำคัญทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและความศรัทธาที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วโลกให้มาสักการะ และการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐาน ณ ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความสำคัญของวัดหลิงกวงในฐานะศูนย์กลางแห่งศรัทธาและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
#วัดหลิงกวง #พระบรมสารีริกธาตุ #พระเขี้ยวแก้ว #กรุงปักกิ่ง #พุทธศาสนา #จีน #ประเทศไทย #วัฒนธรรม #ประวัติศาสตร์