การชี้แจงจากกองทัพอากาศ ตรวจพบรอยร้าวบนเครื่องบิน F-16

การชี้แจงจากกองทัพอากาศ ตรวจพบรอยร้าวบนเครื่องบิน F-16

กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการตรวจพบรอยร้าวที่โครงสร้างเครื่องบิน F-16 ซึ่งเป็นผลจากการบำรุงรักษาตามมาตรฐานสากล และได้ดำเนินการส่งเครื่องไปซ่อมบำรุงแล้วเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเหตุการณ์นี้ไม่กระทบต่อความปลอดภัยในการบินแต่อย่างใด

ทอ. แจงขั้นตอนการซ่อมบำรุง F-16 หลังพบรอยร้าว ยืนยันไม่มีผลต่อความปลอดภัย

กองทัพอากาศ (ทอ.) ชี้แจงกรณีการเคลื่อนย้ายเครื่องบินขับไล่ F-16 จากฝูงบิน 106 สนามบินอู่ตะเภา ไปยังกองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ โดยเครื่องบินลำเลียง C-130H ว่าเป็นไปตามขั้นตอนการซ่อมบำรุง หลังจากที่ตรวจพบรอยร้าวในชิ้นส่วนโครงสร้างตามวงรอบการตรวจสอบตามปกติ ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานสากลและไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน

พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบำรุงรักษาตามวงรอบตามปกติ และพบรอยร้าวที่บริเวณ Lower Bulkhead ของ Main Landing Gear Tension Strut Lug ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดฐานล้อด้านขวา การตรวจพบครั้งนี้ใช้วิธีการตรวจสอบแบบไม่ทำลายเนื้อวัสดุ (Non Destructive Inspection: NDI) ตามมาตรฐานสากล และได้รับการยืนยันจากบริษัทผู้ผลิตอากาศยาน Lockheed Martin ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทฯ ได้ออกรายงาน Field Service Report ที่ไม่สามารถอนุมัติให้เครื่องบินลำนี้ทำการบินเองได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

มาตรการที่ ทอ. ดำเนินการ

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด กองทัพอากาศได้ดำเนินการตามมาตรการที่วางไว้ดังนี้:

  • หารือและวางแผนการเคลื่อนย้าย: กองทัพอากาศได้ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการเคลื่อนย้ายเครื่องบิน F-16 จากสนามบินอู่ตะเภามายังกองบิน 4 ซึ่งเป็นหน่วยซ่อมบำรุงหลักอย่างรัดกุมและปลอดภัย
  • ขนส่งด้วย C-130H: การเคลื่อนย้ายได้ใช้เครื่องบินลำเลียง C-130H ซึ่งต้องถอดชิ้นส่วนเครื่องบิน F-16 บางส่วนออกเพื่อให้มีขนาดเหมาะสมต่อการลำเลียง
  • ซ่อมบำรุงตามมาตรฐาน: การซ่อมบำรุงจะใช้ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศเอง ร่วมกับบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด (TAI) ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล
  • ยืนยันความปลอดภัย: กองทัพอากาศยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน และเป็นเครื่องยืนยันถึงความเข้มงวดและโปร่งใสในกระบวนการบำรุงรักษาทุกขั้นตอน

กองทัพอากาศย้ำว่าการตรวจพบรอยร้าวครั้งนี้เป็นผลมาจากความสามารถด้านวิศวกรรมการซ่อมบำรุงของกำลังพลกองทัพอากาศเอง และความร่วมมือกับบริษัท TAI เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักบิน กำลังพล และประชาชนจะได้รับความปลอดภัยสูงสุดจากศักยภาพของกองทัพอากาศไทย