การประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย #COPE_TIGER2025 กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ผู้บัญชาการจากกองทัพอากาศไทย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ร่วมกันกำหนดรายละเอียดการฝึกภาคสนาม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการตอบโต้ภัยคุกคามที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น อาทิ ภารกิจ C-UAS และการตอบโต้อาวุธต่อสู้อากาศยานสมัยใหม่ การฝึกครั้งนี้จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์และความร่วมมือระหว่างประเทศพันธมิตร เพื่อสร้างความมั่นคงในภูมิภาค #กองทัพอากาศ #UnbeatableAirForce
การประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย COPE TIGER 2025 สู่การฝึกผสมที่ทันสมัยและตอบโจทย์ภัยคุกคามยุคใหม่
การประชุมวางแผนขั้นสุดท้าย (Final Planning Conference: FPC) ของการฝึกผสม COPE TIGER 2025 เป็นก้าวสำคัญสู่การปฏิบัติการฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise: FTX) ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศร่วมกันของกองทัพอากาศทั้งสามชาติ โดยมีการกำหนดแนวทางและข้อตกลงร่วมกันอย่างละเอียด เพื่อให้การฝึกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้
จุดเด่นของการฝึก COPE TIGER 2025 นั้นอยู่ที่การนำเอาภารกิจรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับภัยคุกคามในปัจจุบันมาใช้ในการฝึก อาทิ
- ภารกิจการตอบโต้ระบบอากาศยานไร้คนขับ (C-UAS): การฝึกนี้จะช่วยให้บุคลากรมีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามจากอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในสงครามสมัยใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
- ภารกิจการตอบโต้อาวุธต่อสู้อากาศยานสมัยใหม่: การฝึกนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยของศัตรู ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการปฏิบัติการทางอากาศ
การนำภารกิจรูปแบบใหม่เหล่านี้มาใช้ในการฝึก ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับบุคลากรในการตอบโต้กับภัยคุกคามในยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือและความเข้าใจอันดีระหว่างกองทัพอากาศทั้งสามชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในอนาคต
การฝึก COPE TIGER 2025 จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากำลังทางอากาศของไทย และเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความมั่นคงของภูมิภาค โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพร้อมในการรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
#กองทัพอากาศ #UnbeatableAirForce #CopeTiger2025