เจาะลึกกลยุทธ์ Distributed Air Operations ที่เปลี่ยนโฉมหน้าสงครามทางอากาศในอนาคต จากแนวคิด Agile Combat Employment (ACE) ของสหรัฐฯ สู่การทำงานร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างเครื่องบินมีคนขับและฝูงโดรนต้นทุนต่ำ (MUM-T) เช่น โครงการ Gremlins ของ DARPA พบกับความท้าทายด้านทรัพยากรและวิเคราะห์ 4 ฉากทัศน์สงครามทางอากาศในอนาคต: ตั้งแต่การบูรณาการแบบจำกัดไปจนถึง Swarm Warfare และ Human-Machine War ที่ AI จะเข้ามาเป็นกุญแจสำคัญ
Air War Distributed Air Operations พลิกโฉมสงครามด้วยโดรนฝูงและการทำงานร่วมกันของมนุษย์-เครื่องจักร (MUM-T)
เรียบเรียงและวิเคราะห์โดย น.อ.วัชรพงษ์ กลีบม่วง
สงครามทางอากาศกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นการ “กระจาย” อำนาจและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาศูนย์กลางขนาดใหญ่ ผ่านแนวคิด Distributed Air Operations (DAO) ที่พัฒนามาจาก Distributed Operations ของกองทัพสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นที่ความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และการอยู่รอดในสนามรบที่มีความซับซ้อนและมีการโจมตีที่แม่นยำสูง
Distributed Operations: จากฐานทัพหลักสู่ปฏิบัติการที่คล่องตัว
แนวคิด Distributed Operation ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดความเปราะบางของกองทัพต่อการโจมตีเป้าหมายสำคัญเพียงไม่กี่แห่ง โดยเฉพาะในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่นำมาปรับใช้ในชื่อ Agile Combat Employment (ACE) สาระสำคัญคือการ กระจายเครื่องบินรบ ออกไปยังฐานทัพอากาศขนาดเล็กและไม่เป็นที่รู้จักจำนวนมาก แทนที่จะรวมศูนย์ไว้ที่ฐานทัพหลักเพียงไม่กี่แห่ง
แม้กลยุทธ์นี้จะช่วย เพิ่มความอยู่รอด ให้กับกำลังรบจากการลดความเสี่ยงในการถูกทำลายเป็นวงกว้าง แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายที่สำคัญคือ ทรัพยากร การสนับสนุนฐานปฏิบัติการจำนวนมากต้องอาศัยการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเครือข่ายการสื่อสารที่แข็งแกร่ง และการกระจายฐานที่สอดคล้องกับทรัพยากรที่มีจำกัด
การถ่ายทอดสู่ Manned and Unmanned Teaming: MUM-T และ Gremlins
การต่อยอดแนวคิด Distributed Operations สู่การปฏิบัติการทางอากาศแบบกระจาย หรือ Distributed Air Operations มีหัวใจสำคัญคือการผสานรวม Manned and Unmanned Teaming (MUM-T) หรือการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องบินที่มีนักบินควบคุมกับอากาศยานไร้คนขับ (โดรน)
ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมคือ โครงการ Gremlins ของ DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) โครงการนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาระบบที่สามารถ ปล่อยและกู้คืนฝูงโดรนขนาดเล็ก (X-61A Gremlins) จากเครื่องบินลำเลียง (เช่น C-130) กลางอากาศ โดรน Gremlins มีต้นทุนต่ำ สามารถติดตั้งอุปกรณ์ลาดตระเวนหรืออาวุธเบา และถูกปล่อยออกไปปฏิบัติภารกิจที่หลากหลาย เช่น การลาดตระเวน, การสร้างเครือข่าย, หรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ โดยที่เครื่องบินแม่ยังคงบินอยู่นอกเขตอันตราย
ความสำเร็จของ Gremlins ในการ “จอด” บนเครื่องบินลำเลียงกลางอากาศทำให้สามารถ นำกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาบินกลับไปลงจอดที่สนามบิน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความยืดหยุ่น และลดเวลาในการปฏิบัติการรอบต่อไป ด้วยต้นทุนที่ต่ำ ทำให้สามารถผลิตโดรนจำนวนมากเพื่อ กระจายการปฏิบัติภารกิจ เป็นหลายหมู่บินได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ความได้เปรียบเหนือฝ่ายตรงข้าม
สงครามทางอากาศในอนาคต: 4 ฉากทัศน์ที่ต้องเตรียมพร้อม
สงครามทางอากาศในอนาคตจะเป็นการบูรณาการระหว่าง MUM-T ภายใต้ Distributed Air Operations โดยมี เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยฉากทัศน์ของสงครามทางอากาศในอนาคตสามารถสังเคราะห์ได้เป็น 4 รูปแบบจากปัจจัยด้านการสนับสนุนจากรัฐบาล/กองทัพ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี:
- ฉากทัศน์ที่ ๑: การบูรณาการแบบจำกัด (Limited Integration): เทคโนโลยีพัฒนาช้าและยังเผชิญอุปสรรคด้านงบประมาณ/กฎหมาย เครื่องบินรบมีนักบินยังเป็นกำลังหลัก และ MUM-T ถูกใช้ในภารกิจเฉพาะทางที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น
- ฉากทัศน์ที่ ๒: การสงครามฝูง (Swarm Warfare): เทคโนโลยีฝูงโดรนประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด ทำให้ Distributed Air Operations กลายเป็นยุทธศาสตร์หลัก เครื่องบินรบมีนักบินถูกใช้เป็น “เครื่องบินแม่” (Mothership) คอยควบคุมฝูงโดรนจากระยะปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงต่อยุทโธปกรณ์ราคาแพง
- ฉากทัศน์ที่ ๓: สงครามข้อมูลไซเบอร์เป็นใหญ่ (Cyber-Dominant Warfare): ความสามารถทาง ไซเบอร์และอิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญสูงสุด การรบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในโลกดิจิทัล การสนับสนุนจากภาครัฐและงบประมาณต่ำ ทำให้เกิดการปรับรูปแบบสนามรบจากทางกายภาพสู่มิติไซเบอร์
- ฉากทัศน์ที่ ๔: สงครามมนุษย์-เครื่องจักร (Human-Machine War): แม้ได้รับการสนับสนุนสูงแต่เทคโนโลยีพัฒนาต่ำ ระบบ AI และโดรนถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติที่สุด โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องจักรกับมนุษย์เพื่อชดเชยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี








การทำความเข้าใจกับแนวคิด Distributed Air Operations และแนวโน้มของ MUM-T จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์และโครงสร้างกำลังรบของกองทัพอากาศยุคใหม่ เพื่อให้สามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายของสงครามในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ